Equipment

SAMSUNG ปฏิวัติวงการจอภาพ ประกาศการก้าวสู่ยุค “AI Screen” เปิดตัว Neo QLED, MICRO LED, OLED ปี 2024

– เปิดตัว Neo QLED TV 8K ที่ยกระดับคุณภาพของภาพและเสียงด้วยโปรเซสเซอร์ NQ8 AI Gen3 และโปรเซสเซอร์ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถที่มากขึ้นใน Neo QLED TV 4K, OLED TV ที่สว่างกว่ารุ่นก่อน และ MICRO LED ที่จะมอบประสบการณ์การรับชมที่เหนือระดับ

– โดดเด่นไปกับไลน์อัพไลฟ์สไตล์ใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับลำโพง Music Frame และ โปรเจคเตอร์ 8K ไร้สายรุ่นแรกของโลก The Premiere 8K

ซัมซุงประกาศเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์จอภาพใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรม ประกอบด้วย QLED, MICRO LED, OLED และกองทัพไลฟ์สไตล์ดิสเพลย์ที่งาน CES 2024 โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ของหน้าจอ AI Screen ผ่านการเปิดตัวโปรเซสเซอร์ AI รุ่นล่าสุดที่จะมากำหนดนิยามใหม่ให้กับซัมซุงสมาร์ทดิสเพลย์ ผ่านคุณภาพการแสดงผลหน้าจอและเสียงที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนฟีเจอร์มากมายที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั้งยังมาพร้อมกับ Samsung Knox ฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพการใช้งานอย่างไร้กังวล พร้อมมอบแรงบันดาลให้ผู้ใช้ ทุกไลฟ์สไตล์

“ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์จอภาพไม่ใช่แค่เรื่องของการมอบประสบการณ์การรับชมที่มีคุณภาพอีกต่อไป แต่เรากำลังอยู่ในยุคสมัยแห่งการเชื่อมต่อแบบหลายมิติ (Hyperconnection) ซึ่งจอภาพควรจะเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของพวกเราได้ทั้งในและนอกจอ” SW Yong ประธานและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจจอภาพซัมซุง กล่าว “จอภาพ AI ของซัมซุงนั้นขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี AI แบบ on-device ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นศูนย์กลางของบ้านผู้ใช้ พร้อมทั้งเชื่อมต่อดีไวซ์ทั้งหมดที่รองรับเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายและครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน”

ประสิทธิภาพ AI สองเท่าเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุดของ Neo QLED TV 8K

Neo QLED TV 8K และ 4K ของซัมซุงได้นำเสนอความเป็นที่สุดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของภาพที่เสมือนจริง เทคโนโลยีเสียงระดับพรีเมียม ไปจนถึงแอปพลิเคชันต่างๆ และบริการที่หลากหลาย โดยหัวใจสำคัญคือโปรเซสเซอร์ที่ล้ำสมัยใหม่ล่าสุดอย่าง NQ8 AI Gen3 ซึ่งมีหน่วยประมวลผล Neural Processing Unit – NPU ที่รวดเร็วกว่ารุ่นก่อนถึงสองเท่า โดยจำนวนของโครงข่ายประสาทยังได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8 เท่า จาก 64 เป็น 512 ซึ่งมอบความสามารถในการแสดงผลอันแสนละเอียดให้กับทุกสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

โปรเซสเซอร์ขั้นสูงดังกล่าว ทำให้ผลิตภัณฑ์จอภาพของซัมซุงในปีนี้ได้รับการอัปเกรดประสิทธิภาพอย่างไม่เคยมีมาก่อน Neo QLED TV ยังได้ประสานคุณภาพเข้ากับการออกแบบที่ช่วยยกระดับฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ดังนี้

· 8K AI Upscaling Pro: การใช้งานโปรเซสเซอร์​ NQ8 AI Gen3 เพื่อพัฒนาการขยายภาพผ่านจอภาพ 8K พร้อมทั้งเพิ่มความคมชัดให้กับเนื้อหาที่มีความละเอียดต่ำ ซึ่งได้มอบประสิทธิภาพการแสดงผลความละเอียดสูงพิเศษให้กับผู้รับชม

· AI Motion Enhancer Pro: ฟีเจอร์ที่ช่วยแก้ปัญหาในการรับชมรายการกีฬา อย่างเช่นการบิดเบือนของวัตถุขนาดเล็กบนหน้าจอ เช่น ลูกบอล โดยพัฒนามาเพื่อให้สามารถรับชมการแข่งขันกีฬาทุกแมทช์ด้วยประสิทธิภาพการแสดงผลหน้าจอความละเอียดสูงผ่านฟีเจอร์นี้ ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์​ NQ8 AI Gen3 โดยฟีเจอร์นี้จะทำการตรวจจับประเภทของกีฬาโดยอัตโนมัติและใช้การเรียนรู้เชิงลึกเพื่อเลือกใช้รูปแบบการตรวจจับลูกบอลที่เหมาะสมสำหรับการแข่งขันนั้นๆ

· Real Depth Enhancer Pro: ฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มรายละเอียดให้กับฉากที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยใช้ AI ซึ่งสามารถควบคุมหลอด LED ขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนมอบความสมจริงให้กับภาพให้ดูเป็นสามมิติมากขึ้นผ่านการตรวจจับส่วนของฉากที่ดวงตาของมนุษย์จะโฟกัสโดยธรรมชาติและนำมาไว้ข้างหน้าสุด

· Infinity Air Design: เติมเต็มคุณภาพของการแสดงผลภาพอันไร้ที่ติของ Neo QLED 8K ด้วยขนาดตัวเครื่องที่มีความบางเพียงแค่ 12.9 มม.​ ช่วยมอบประสบการณ์การรับชมอันแสนดื่มด่ำที่มาพร้อมกับภาพความละเอียดสูงและคุณภาพเสียงที่แสนโดดเด่น พร้อมดีไซน์เอฟเฟกต์กระจกเงาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ Neo QLED TV 8K ดูเหมือนลอยอยู่ตลอดเวลา

Neo QLED TV 8K นั้นเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพเสียงอันไร้ที่ติ ตลอดจนคุณภาพของภาพขนาด 8K ที่คมชัดอย่างน่าทึ่ง

· 2024 Q-Symphony: มอบความสามารถในการเชื่อมต่อลำโพงไร้สายและซาวด์บาร์หลายตัวเข้ากับทีวีหรือโปรเจคเตอร์เพื่อประสบการณ์เสียงที่แสนสมบูรณ์แบบของรายการโชว์​ ภาพยนตร์​ ไปจนถึงเพลย์ลิสต์สุดโปรดได้ในเวลาเดียวกัน

· Active Voice Amplifier Pro: ฟีเจอร์การสนับสนุนบทสนทนา AI ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกแบบเอ็กซ์คลูซีฟในการพัฒนาบทสนทนาและเสียงผ่านหน้าจอให้ดียิ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยฟีเจอร์นี้สามารถแยกเสียงต่างๆ ออกจากกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับศักยภาพในการป้อนข้อมูลด้วยเสียงเพื่อให้ผู้ใช้ได้สามารถติดตามบทสนทนาที่ปรากฏบนหน้าจอได้อย่างง่ายดายในทุกระดับเสียง

ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงในบ้านให้สนุกขึ้นด้วย Tizen OS 2024

Tizen OS 2024 บน Neo QLED 8K TV มอบประสบการณ์ความบันเทิงและฟีเจอร์มากมายที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบผ่านการตั้งค่าบัญชีที่หลากหลายบนสมาร์ททีวี ตลอดจนทำให้สมาชิกทุกคนในบ้าน ที่ใช้ซัมซุง สมาร์ททีวีสามารถตั้งค่าโปรไฟล์เพื่อรับคำแนะนำต่างๆ แบบเฉพาะบุคคลคนและดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบมากยิ่งขึ้น

· Samsung TV Plus: มาพร้อมกับการอัปเดต UI ซึ่งประกอบด้วยหน้าจอ Home Screen ใหม่ที่มาพร้อมกับภาพรวมของคอนเทนต์ อีกทั้งยังมาพร้อมกับหมวดหมู่เพิ่มเติมเพื่อการค้นหาคอนเทนต์ต่างๆ ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์นี้ได้เชื่อมต่อเข้ากับบัญชีซัมซุง เพื่อทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงคอนเทนต์และความบันเทิงสุดโปรดได้อย่างง่ายดายไปพร้อมกับแนะนำ คอนเทนต์ต่างๆ ที่ปรับแต่งมาจากประวัติการรับชมของผู้ใช้แต่ละคน

· ‘Designed for Samsung Gaming Hub’ Controller: ซัมซุงได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการอุปกรณ์เสริมสำหรับเกมอย่าง Performance Designed Products (PDP) เพื่อพัฒนาคอนโทรลเลอร์​ชิ้นแรกที่ถูกออกแบบมาเพื่อ Samsung Gaming Hub โดยเฉพาะ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2024 โดยคอนโทรลเลอร์ไร้สายรุ่นใหม่ของ PDP ได้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวที่สามารถชาร์จใหม่ได้ และใช้งานได้นานสูงสุดถึง 40 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อไร้สายบลูทูธที่มีความหน่วงต่ำ 30 ฟุต, ปุ่มโฮม Samsung Gaming Hub ที่สามารถกดเข้า Gaming Hub อย่างง่ายดาย, ปุ่มควบคุมระดับเสียงทีวีที่ใช้งานง่าย และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย

สัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ครอบคลุมทุกตารางนิ้วด้วยซัมซุงอีโคซิสเต็ม

ด้วยความเป็นศูนย์กลางของบ้านของทีวีซัมซุง ผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมล่าสุดและเพลิดเพลินไปกับการเชื่อมต่อที่ไร้ขอบเขตระหว่างดีไวซ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย โดยในปีนี้ ซัมซุงตั้งใจที่จะพัฒนาประสบการณ์การเชื่อมต่อภายในบ้านด้วย Samsung Daily+ ซึ่งเป็นฮับสำหรับกิจกรรมภายในบ้านที่มาพร้อมกับบริการต่างๆ และฟีเจอร์มากมาย ตั้งแต่การเทรนนิงส่วนบุคคลและคำแนะนำทางด้านสุขภาพทางไกลไปจนถึงการวิดีโอคอลและ PC โซลูชัน​ทางไกลที่รวมอยู่ในอินเทอร์เฟสเดียวกัน โดยฟีเจอร์ใหม่ต่างๆ มีดังต่อไปนี้

· Workout Tracker: แสดงข้อมูลการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ เช่น ระยะเวลาการออกกำลังกายและอัตราการเต้นของหัวใจจากแวร์เอเบิลดีไวซ์มาไว้บนคอนเทนต์ของผู้ใช้ที่แสดงบนหน้าจอซัมซุง เพื่อมอบทั้งความบันเทิงไปและแจ้งข้อมูลในขณะออกกำลังกายให้กับผู้คนในบ้านทราบในเวลาเดียวกัน

TechnoGym: ยกระดับประสบการณ์การออกกำลังกายที่บ้านด้วยฟิตเนสและเวลเนสวิดีโอคุณภาพสูงจากผู้ให้คำแนะนำทางด้านออกกำลังกายระดับโลกจาก TechnoGym โดยผู้ใช้สามารถรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ที่ถูกคัดสรรมาพร้อมประสิทธิภาพสูงสุดได้บนทีวีของซัมซุงเท่านั้น
F45: ผู้ใช้สามารถออกกำลังกายและเข้าร่วมการเทรนนิ่งในสตูดิโอของ F45 ซึ่งมีมากกว่า 3,000 แห่งทั่วโลก
FlexIt: ไลฟ์เซสชันแบบ One-on-one กับผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตเนสและสุขภาพ
· Dr.Tail: มอบการปรึกษาในรูปแบบเรียลไทม์วิดีโอกับสัตวแพทย์​ในบ้านของผู้ใช้ได้อย่างสะดวกสบาย ตั้งแต่เคล็ดลับในการดูแลสัตว์เลี้ยงง่ายๆ ไปจนถึงคำแนะนำขั้นสูง Dr.Tail สามารถตอบคำถามได้อย่างครอบคลุมและสามารถเชื่อมต่อกับสัตวแพทย์ได้แบบเรียลไทม์ทุกเวลาตามต้องการ

· Multi Control: ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานแบบ Work from Home ให้มากยิ่งขึ้นโดยควบคุมหน้าจอทั้งหมดของตนเองได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นทีวี สมาร์ทโฟน ไปจนถึงจอมอนิเตอร์ด้วยคีย์บอร์ดและเม้าส์แบบบลูทูธ อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การทำงานที่หลากหลายด้วยการคัดลอกและวาง การอ่านเอกสารต่างๆ และอื่นๆ ผ่านดีไวซ์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน

ทีวีและจอภาพในปี 2024 ของซัมซุงยังมาพร้อมกับความเข้ากันได้ของดีไวซ์ต่างๆ ในซัมซุงอีโคซิสเต็ม ช่วยบูรณาการเชื่อมต่อระหว่างทีวีและสมาร์ทโฟนหรือแวร์เอเบิลดีไวซ์​เพื่อการปรับแต่ง การเข้าถึง และความสะดวกสบายในระดับที่สูงขึ้น

· Mobile Smart Connect: แอปพลิเคชันและบริการต่างๆ สามารถควบคุมได้ง่ายๆ ด้วย SmartThings Mobile Plugin เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นรีโมทที่มาพร้อมกับความสามารถในการทำงานที่หลากหลาย ทำให้ผู้ใช้ควบคุมหน้าจอได้ดียิ่งขึ้น โดยแอป​ได้มอบการเข้าถึงที่สะดวกและดีกว่าเดิมผ่านอินเทอร์เฟซแบบป๊อปอัพและ UI ที่สามารถปรับแต่งได้

· 360 Audio: ฟีเจอร์เสียงที่เคยให้บริการแค่บนกาแล็คซี่ดีไวซ์ของซัมซุงได้ถูกขยายการบริการมาบนทีวีและหน้าจอของซัมซุงแล้ว และตอนนี้ Samsung Galaxy Buds สามารถเชื่อมต่อไปยังทีวีได้อย่างไร้ขอบเขตเพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่เปรียบเสมือนอยู่ในอวกาศให้กับภาพยนตร์ โชว์ต่างๆ และการเล่นเกม ให้ผู้ใช้ได้ดื่มด่ำไปกับเนื้อหาภาพและการเล่นเกม

· Vibrary: เพลิดเพลินไปกับศิลปินคนโปรดด้วยภาพคุณภาพสูงผ่านทีวีจอใหญ่ โดยผู้ใช้สามารถถูกต้อนรับจากศิลปินที่ชอบได้ในทุกวันด้วย Ambient Mode อีกทั้งยังสามารถดื่มด่ำไปกับรูปภาพและเสียงเพลงจากทีวีและสมาร์ทโฟนผ่านฟีเจอร์ Casting ที่มอบประสบการณ์การรับชมอันไร้ขีดจำกัดให้กับผู้ใช้ทุกคน

ไลน์อัพทีวีและผลิตภัณฑ์จอภาพล่าสุดของซัมซุงยังได้มอบการเข้าถึงที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถสนุกไปกับคอนเทนต์ที่ตัวเองชอบได้มากขึ้นบนซัมซุง Neo QLED มากกว่าที่เคยเป็น

· คำบรรยายเสียง: ฟีเจอร์แบบ on-device บนทีวีเครื่องแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยี AI และ เทคโนโลยี Optical Character Recognition (OCR) เพื่อมอบคำบรรยายที่ถูกฝังอยู่ในรูปแบบเสียงได้แบบเรียลไทม์

· รีโมทที่ไร้สิ่งขัดขวาง: แอปถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นผู้บกพร่องทางการมองเห็น การได้ยิน และทางกายภาพ โดยมอบการควบคุมทีวีที่ถูกออกแบบมาอย่างรอบคอบยิ่งขึ้นให้สามารถควบคุมหน้าจอของตนได้อย่างง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟน และปรับแต่งได้เองตามใจชอบจากการปรับปรุง UI ใหม่ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการวางตำแหน่งปุ่มที่สามารถใช้งานได้ง่าย สีที่โดดเด่นและการตอบสนองต่อการสัมผัส ตลอดจนการรวมฟีเจอร์การเข้าถึงล่าสุดของซัมซุงอย่างฟีเจอร์​คำแนะนำเสียงเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายจากสมาร์ทโฟน

· Relumino Together Mode: ฟีเจอร์ที่ช่วยทำให้ผู้คนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสามารถเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์โปรดได้โดยไม่ต้องสวมใส่อุปกรณ์ช่วยเหลือเพิ่มเติม ด้วย AI ที่ช่วยแสดงองค์ประกอบต่างๆ บนหน้าจอแบบไดนามิกและปรับสมดุลสีทำให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสามารถเห็นคนและวัตถุต่างๆ บนหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังแสดงหน้าจอแบบมาตรฐานและหน้าจอในโหมด Relumino ควบคู่กันไปเพื่อให้ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางสายตาและครอบครัวสามารถเพลิดเพลินไปกับการรับชมความบันเทิงร่วมกันได้

MICRO LED: เพิ่มความเป็นไปได้อย่างไม่สิ้นสุดของเทคโนโลยีจอภาพคำพูดจาก คาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุดในทวีปเอเชีย

MICRO LED ที่โปร่งใสแบบใหม่ ซัมซุงกำลังแสดงให้โลกเห็นถึงความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับผลิตภัณฑ์จอภาพ โดยจอที่ดูเหมือนกระจกใสได้มาพร้อมกับชิป MICRO LED ที่มีขนาดเล็กมาก ผ่านกระบวนการผลิตที่มีความแม่นยำซึ่งช่วยลดรอยต่อและการหักเหของแสงได้ทำให้หน้าจอสามารถมอบภาพที่คมชัด ไร้สิ่งรบกวนต่างๆ เพื่อการใช้งานที่หลากหลายทั้งภายในบ้านและการใช้งานเพื่อธุรกิจ

ด้วยการออกแบบแบบโมดูลาร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกสรรรูปร่าง ขนาด และอัตราส่วนของจอเพื่อให้เข้ากับพื้นที่ต่างๆ ได้ MICRO LED จึงเป็นเทคโนโลยีหน้าจอที่ล้ำสมัยอย่างแท้จริง และด้วยการวิจัยและพัฒนาที่มากมายของซัมซุงที่สืบเนื่องมาจากความเชี่ยวชาญทางด้านเซมิคอนดักเตอร์​ ได้นำไปสู่กระบวนการการผลิตที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้การทำงานของชิป LED สามารถฝังลงบนกระจกได้โดยตรง ทำให้ลดการสูญเสียความสว่างที่ผู้ใช้อาจประสบพบเจอในจอภาพแบบเดิมๆ ได้

มอบความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ OLED TV เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้ให้ดีที่สุด

OLED TV 2024 ต่อยอดจากรุ่นเก่าในปีที่ผ่านมา ด้วย S95D ที่นำเสนอแคนวาสขนาดใหญ่ขนาด 77 นิ้ว เพื่อมอบความละเอียดสูง อัตราเฟรมเรทที่สูง และการแสดงผลวิดีโอที่มีสีสันสดใส ซึ่งรุ่นนี้มีความสว่างมากกว่ารุ่นที่แล้วถึง 20% อีกทั้งยังมาพร้อมกับการแสดงผลเฉดสีดำที่ชัดเจนและความแม่นยำของสีที่ได้รับการพัฒนาโดย AI ที่แสดงผลสีบริสุทธิ์มากจนถึงขั้นได้รับการรับรอง Pantone Validated™ นอกจากนี้ซัมซุงยังได้ทำการเปิดตัวทีวี S90D และ S85D ในขนาดต่างๆ ที่หลากหลาย ตั้งแต่ขนาด 42 นิ้ว ไปจนถึง 83 นิ้ว

เทคโนโลยี ‘OLED Glare Free’ ใหม่ล่าสุดที่ถูกออกแบบมาสำหรับหน้าจอ OLED ในปี 2024 โดยเฉพาะ และคงความถูกต้องของสีไปพร้อมกับช่วยลดการสะท้อนในขณะที่ยังคงความชัดเจนของภาพเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์อันแสนดื่มด่ำจากการรับชมความบันเทิงได้แม้ในตอนกลางวัน OLED TV นี้ยังได้รับการเคลือบชั้นพื้นผิวหน้าจอด้วยชั้นเคลือบชนิดพิเศษที่มีความแข็งซึ่งช่วยลดการสะท้อนแสง ซึ่งเป็นการปรับแต่งอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานหน้าจอของซัมซุงได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ทีวี S95D ยังทำให้ผู้ชมได้หลงใหลไปกับความสามารถในการแสดงภาพชั้นสูงซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ที่ช่วยคงไว้ซึ่งการแสดงผลสีขาวที่ สมบูรณ์แบบ สีดำที่ลึกขึ้น รวมทั้งการแสดงผลสีต่างๆ ที่แม่นยำ โดยนอกจากจะเป็น OLED TV ที่สว่างที่สุดของซัมซุงแล้ว ยังมาพร้อมกับอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 144Hz ซึ่งทำให้ผู้ใช้ที่เป็นแฟนกีฬาและเกมเมอร์สามารถสนุกไปกับความเคลื่อนไหวที่ไร้ขอบเขตและคมชัด

ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ใหม่ที่มาพร้อมกับโซลูชัน Bespoke ​เพื่อเติมเต็มความต้องการในวิถีชีวิตทุกรูปแบบ

นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่ได้รับรางวัลอย่าง The Frame, The Serif และ The Terrace แล้วนั้น ซัมซุงยังได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จอภาพภายใต้แนวคิด “Screens Everywhere, Screens for All” ด้วยผลิตภัณฑ์จอภาพใหม่ล่าสุด พร้อมชูการปรับแต่งเฉพาะบุคคลขึ้นในอีกระดับ ดังนี้

· The Frame: ทีวีกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่ขายดีที่สุดของซัมซุง ได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับประสบการณ์ศิลป์ให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับศิลปะต่างๆ ได้มากกว่าเดิมด้วยผลงานศิลปะกว่า 2,500 ชิ้น จากพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรีที่โด่งดังระดับโลกใน Art Store นอกจากนี้ฟีเจอร์การสตรีมศิลปะใหม่ของ The Frame ยังทำให้ได้สัมผัสคอลเลกชันงานศิลปะที่หลากหลายผ่านงานศิลปะที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีที่คัดสรรด้วยมือฟรีทุกเดือน ยิ่งไปกว่านั้นความสามารถในการปรับอัตรารีเฟรชเรทหน้าจอที่หลากหลายของ The Frame ในปี 2024 นี้ยังได้ช่วยลดค่าไฟได้สูงสุดถึง 10%

· The Premiere 8K Projector: โปรเจคเตอร์ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย โซลูชันนี้ช่วยขจัดความจำเป็นของการใช้สายเคเบิลเพื่อการเชื่อมต่อ ทำให้พื้นที่ในห้องดูสะอาดและมีระเบียบ โดยโปรเจคเตอร์แบบ Ultra-short ได้อัดแน่นไปด้วยสมาร์ทฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียงภายในบ้านระดับพรีเมียมที่สามารถเล่นเสียงได้แม้หน้าจอจะปิดอยู่ (Picture-off) การเล่นเกมบนคลาวด์ การเปิดเสียงแบบ Always-on พร้อมไมโครโฟนระยะไกล (Far-field) และฟีเจอร์ Multi-view ที่ช่วยแบ่งหน้าจอการรับชมได้มากถึง 4 จอ ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับรูปแบบการใช้งานความบันเทิงได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ The Premiere 8K Projector ยังได้มาพร้อมกับเทคโนโลยี “Sound-on-Screen” ที่ได้รับการจดสิทธิ์บัตรของซัมซุง โดยผสานรวมโมดูลลำโพงชั้นนำและซอฟต์แวร์อัลกอริธึม เพื่อมอบประสบการณ์เสียงอันแสนดื่มด่ำให้กับผู้ใช้

· The Freestyle 2nd Gen: โปรเจคเตอร์แบบพกพา รุ่นที่ 2 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Smart Edge Blending ซึ่งรองรับการฉายภาพจาก The Freestyle 2 เครื่องและผสานรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างหน้าจอขนาดใหญ่มากถึง 160 นิ้วด้วยอัตราส่วนหน้าจอขนาด 21:9 ให้ผู้ใช้ได้รับชมภาพและวิดีโอต่างๆ ได้บนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องปรับค่าต่างๆด้วยตนเอง

มอบประสบการณ์เสียงที่แสนดื่มด่ำกว่าที่เคยด้วยซาวด์บาร์ใหม่ล่าสุด

นอกจากการตั้งค่าความบันเทิงภายในบ้านแล้ว กลุ่มผลิตภัณฑ์ซาวด์บาร์ในปี 2024 ยังมาพร้อมกับรุ่นที่ได้รับการอัปเดตใหม่อีกมากมายเพื่อประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำยิ่งกว่าเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากใช้งานอัลกอริธึม AI ระดับสูงนั่นเองคำพูดจาก เว็บเดิมพันออนไลน์

· Music Frame: ลำโพงที่ปรับแต่งได้ตัวนี้สามารถใช้งานร่วมกับแอป​ SmartThings ได้พร้อมทั้งยังให้เสียงโดยรอบเมื่อจับคู่การใช้งานร่วมกับทีวีและซาวด์บาร์ของซัมซุง โดย Music Frame สามารถเป็นได้ทั้งลำโพงไร้สายแบบ Standalone หรือจะใช้งานคู่กับทีวีหรือซาวด์บาร์ของซัมซุงผ่านฟีเจอร์ Q-Symphony เพื่อเพิ่มเสียงเบสและทิศทางเสียงรอบตัวให้มากขึ้นก็ได้เช่นเดียวกัน สามารถกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยการพรางตัวอยู่บนกรอบรูปในดีไซน์ที่แสน โมเดิร์น ทั้งยังมอบเสียงคุณภาพสูงให้กับผู้ใช้โดยปราศจากการบดบังความสวยงามอื่นๆ ภายในห้อง

· HW-Q990D: ซาวด์บาร์นี้มีการกำหนดค่าเสียงแบบ 11.1.4-channel ทำให้ได้เสียง Dolby Atmos สุดดื่มด่ำและรองรับการส่งผ่านเนื้อหาใน 4K 120Hz โดยเสียงต่างๆ ได้รับการวิเคราะห์และปรับแต่งจากเทคโนโลยี AI เพื่อมอบประสบการณ์การรับฟังที่แสนสมบูรณ์แบบในการรับชมคอนเทนต์ที่หลากหลาย

· HW-S800D: ซาวด์บาร์ที่แสนบางเฉียบซึ่งมีขนาดความลึกเพียงแค่ 1.6 นิ้วรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเข้ากับการใช้งานในทุกพื้นที่ พร้อมมอบเสียงที่มีคุณภาพด้วยความลึกเพียงแค่ 1 ใน 3 ของซาวด์บาร์ทั่วไป S800D มีไดรเวอร์ถึง 10 ตัวด้วยกัน ซึ่งรวมถึงลำโพงด้านบนที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและช่องลำโพงตรงกลางเพื่อเสียงที่คมชัด โดยการผสมผสานระหว่างซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer) และแพสซีฟเรดิเอเตอร์​ (Passive Radiator) ช่วยยกระดับประสบการณ์การรับฟังเสียงเบสอันแสนนุ่มลึก ปราศจากความผิดเพี้ยนได้ในขนาดอันแสนกระทัดรัด

กลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวีของซัมซุงในปี 2024 มาพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบการผสมผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ากับการออกแบบที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ซึ่งดีไวซ์ทุกชนิดจะมาช่วยกำหนดคำนิยามใหม่ให้กับวิถีชีวิตพร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การมีส่วนร่วมกับดีไวซ์ให้กับผู้ใช้ ให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์อันแสนดื่มด่ำที่ถูกปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลได้มากยิ่งกว่าที่เคยเป็น

Samsung

Related Posts

Rockstar Reportedly Almost Released The Warriors On GBA

Rockstar’s The Warriors is one of the oddest games that the GTA developer ever released, though it’s quite enjoyable in its own right. According to a recent report from retro gaming site Time Extension, Rockstar came extremely close to releasing a GBA port of the game around 2005, but it was ultimately canned.

The Time Extension piece attributes the information to an anonymous former Rockstar Games employee. That employee says that the game was essentially finished when it was canceled in 2005, and that it used tech from Rockstar Leeds’ GBA port of Max Payne, including the game engine. The piece also states that there’s at least one copy of the game out there, but it hasn’t yet seen a release due to potential legal concerns.

According to the sou…

Fear The Spotlight Review – Blumhouse's First Video Game Is Best Enjoyed As An Intro To Horror

Blumhouse Productions is arguably the biggest name in Hollywood horror today. The studio’s ubiquitous logo appears before what feels like every other theatrically-released horror movie. It’s clear the company has made the genre its focus, and I love that. It means there’s always more to look forward to, even as results surely vary. With Fear The Spotlight, Blumhouse marks its debut in video games, which similarly excites me. Its games will also surely vary in quality, but this indie ghost story is a memorable debut, both for the burgeoning publisher and the pair of developers who built it together.

Fear The Spotlight stars Amy and Vivian, two high-school friends sneaking around school after-hours as soon as the game begins. Amy is dressed like a Hot Topic kid, …

Far Cry 6 Adding Free Stranger Things, Rambo, And Danny Trejo DLC

Ubisoft has announced the DLC roadmap for Far Cry 6’s post-launch content, and it includes crossover missions featuring Rambo, Stranger Things, and the actor Danny Trejo.

The missions are part of the free updates coming to Far Cry 6 at some point after launch. Playable solo or in co-op with two players, the DLC includes the crossover missions featuring the characters above, as well as weekly “insurgency” missions and events called operations.

The Insurgencies, as they’re called, take place each week after launch on October 7, and they will stay playable even when a new one arrives. The Insurgencies involve players tracking down Anton Castillo’s underlings to earn new gear.

The Special Operations, as they’re called, take players to “unique new areas” of Far Cry 6’s fict…

Wolfenstein- Youngblood Nintendo Switch Review

From front to back, Wolfenstein: Youngblood is very much the same game on the Nintendo Switch as it is on other consoles and PC. You’ll get the bombastic combat scenarios where you’ll tear through Nazi trash as the charismatic, dynamic duo of Jess and Soph Blazkowicz, twin daughters of series hero BJ Blazkowicz. And you have the opportunity to play it all alongside a friend. The portable nature of the Nintendo Switch makes this an even more enticing prospect, but the platform’s limited hardware hurts the game’s best parts; low frame rates and muddy visuals make the action harder to enjoy. While these issues are not prohibitive, they do make the Switch version the weakest of the bunch.

Youngblood is a bite-sized spin-off that jumps ahead in Wolfenstein’s timelin…

Nvidia GeForce RTX 4070 Will Retail At $599 – Report

GPUs are getting pretty expensive these days, and it seems that the new GeForce RTX 4070 will continue that trend. According to a report from VideoCardz, Nvidia plans to price the not-yet-announced RTX 4070 at $599.

The $599 price point corresponds to the price of last generation’s RTX 3070 Ti at launch, which was one of the most successful cards of that era Come from Sports betting site VPbet . It’s worth noting that the RTX 4070 Ti is already out, and retails for $799. That card was briefly known as the RTX 4080 12 GB and was set to launch at a $899 price point, but a backlash from consumers ultimately made Nvidia “unlaunch” the card. The report also suggests that the 4070 RTX has a l…

Apex Legends Mobile – Ash Legend Guide

Apex Legends Mobile Season 3: Champions went live last week, debuting a new battle pass and Seasonal Store, along with a plethora of limited-time events. But the star of the season is, of course, Ash: a human-turned-simulacrum who made her debut in Titanfall 2, then joined the Apex Games in Season 11 before making her way over to mobile.

You might think you know this legend inside and out–especially if you’ve played Titanfall 2 or Apex Legends–but playing Ash in the Apex Legends Mobile vs. playing her on console or PC are two very different experiences Come from Sports betting site VPbet . This is partially because of her abilities, which had to be tweaked slightly to fit the needs of the mobile game. But t…